การจัดฟัน
ปัญหาการเรียงตัวผิดปกติ เช่น ฟันซ้อนเก ฟันห่าง ฟันยื่น มีผลต่อสุขภาพกายและจิตใจทั้งในเด็ก วัยรุ่น หรือแม้กระทั่งในผู้ใหญ่ ในแง่ของสุขภาพ เช่น ในเด็กที่มีฟันยื่นมาก การที่มีฟันซ้อนเกจะทำให้การแปรงฟันให้สะอาดได้ยาก มีโอกาสเกิดฟันผุ หรือมีหินปูนเกิดขึ้นง่ายกว่าฟันที่เรียงตัวเรียบปกติ หรือในแง่ของประสิทธิภาพการบดเคี้ยวในผู้ที่มีการสบฟันผิดปกติจะด้อยลงไป ก็จะมีผลเสียต่อสุขภาพโดยรวม ในแง่ของผลต่อจิตใจ เช่น ในเด็กบางคนจะถูกเพื่อนล้อเลียนเกี่ยวกับลักษณะฟันที่ผิดปกติ เช่น ฟันยื่น อาจทำให้ขาดความมั่นใจ พาลไม่อยากไปโรงเรียน หรือในวัยรุ่นการมีฟันเรียงตัวไม่สวยงาม อาจมีผลต่อบุคลิกภาพ ซึ่งก็อาจจะมีผลกระทบต่อหน้าที่การงานในวัยผู้ใหญ่ได้ ปัญหาการสบฟันผิดปกติดังกล่าวข้างต้นสามารถแก้ไขได้ ด้วยการรักษาทางทันตกรรมจัดฟัน โดยทันตแพทย์จัดฟันจะทำการตรวจวิเคราะห์ผู้มีการสบฟันผิดปกติแต่ละราย ว่าจะมีแนวทางการรักษาอย่างไร จำเป็นต้องถอนออกบางซี่เพื่อให้มีเนื้อที่พอสำหรับแก้ไขฟันที่ซ้อนเก หรือไม่ จะใช้เครื่องมือในการรักษาอย่างไรจึงจะเหมาะสมที่สุด ซึ่งเครื่องมือจัดฟันที่ใช้มีสองชนิดใหญ่ๆ คือ แบบถอดได้ และแบบติดแน่น แบบถอดได้จะสำหรับแก้ไขการสบฟันผิดปกติที่ไม่มากนัก ใช้ได้ดีในเด็กเล็ก ถอดใส่ได้เอง ต้องการความร่วมมือของเด็กในการใส่เครื่องมือเป็นอย่างมาก เนื่องจากเด็กสามารถถอดใส่ได้เอง เพราะถ้าไม่ใส่ก็แก้ไขปัญหาไม่ได้ ส่วนชนิดติดแน่นจะมีเครื่องมือโลหะชิ้นเล็ก ๆ ไปยึดติดกับฟันแต่ละซี่ และใช้ลวดจัดฟันในการเคลื่อนฟัน สามารถแก้ไขการสบฟันผิดปกติได้หลายอย่างในเวลาเดียวกัน การรักษาโดยการจัดฟันเป็นการรักษาที่ต้องใช้เครื่องมือที่ซับซ้อน ใส่บนซี่ฟันในช่องปากเป็นเวลานานนับเป็นปี ๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้รับการรักษาจะต้องดูแลความสะอาดทั้งฟันของตัวเองและเครื่องมือจัดฟัน โดยการใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดหลายชนิดร่วมกัน เช่น แปรงสีฟันสำหรับผู้ใส่ลวดจัดฟัน แปรงทำความสะอาดซอกฟัน เส้นใยไหมขัดซอกฟัน เป็นต้น หลังการทานอาหารควรแปรงฟันทุกครั้ง เรื่องอาหารการกินก็ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก ไม่ควรทานอาหารที่แข็งๆ หรือเหนียว ๆ เพราะอาจทำให้เครื่องมือเสียหายได้ เวลาการรักษาก็จะเนิ่นนานออกไป
การจัดฟัน เป็นการแก้ไขการเรียงตัวของฟันที่ขึ้นไม่เป็นระเบียบ หรือมีการสบฟันไม่สัมพันธ์ กันในขากรรไกรบนและล่าง ให้กลับเข้าสู่ตำแหน่งที่ควรจะเป็น เพื่อให้การสบฟันเป็นปกติ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการบดเคี้ยวอาหาร การดูแลรักษาสุขภาพช่องปากและฟัน ทำให้มั่นใจเวลายิ้ม ตลอดจนอาจจะปรับให้รูปลักษณะของใบหน้าดีขึ้นได้ด้วย
การจัดฟัน สามารถทำได้ทั้งวัยเด็กและวัยผู้ใหญ่ มักจะเกิดคำถามบ่อยครั้งว่า อายุมากแล้วสามารถจัดฟันได้หรือไม่ จริงๆ แล้วอายุไม่ใช่ปัญหาของการจัดฟัน หากผู้ป่วยมีสุขภาพฟันที่ดี ไม่มีโรคเหงือก และสามารถดูแลความสะอาดภายในช่องปากระหว่างจัดฟันได้เป็นอย่างดี ก็สามารถจัดฟันได้ แต่การจัดฟันในวัยเด็กจะประสบความสำเร็จได้ง่ายกว่า ช่วงอายุที่เหมาะสม คือ อายุประมาณ 10-14 ปี เนื่องจากเป็นช่วงที่ส่วนต่างๆ ของโครงสร้างใบหน้ากำลังเจริญเติบโต จะมีส่วนช่วยในการเคลื่อนที่ของฟันให้เกิดขึ้นได้ง่ายและรวดเร็ว หากการจัดฟันทำในช่วงเกินอายุ 14 ปีไปแล้ว ก็จะเคลื่อนฟันได้ยากขึ้น และได้ผลช้าลง
ระยะเวลาที่ใช้ในการจัดฟัน จะแตกต่างกันไป ซึ่งขึ้นกับองค์ประกอบหลายอย่าง คือ ลักษณะการสบของฟัน และเนื้อที่ขากรรไกรว่ามากน้อยเพียงใด ชนิดของเครื่องมือที่ใช้ และยังขึ้นอยู่กับอายุที่เริ่มจัดฟันด้วย การจัดฟันในผู้ใหญ่จะใช้เวลามากกว่าในเด็ก และหลังการจัดเรียงฟันให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องแล้ว ยังคงต้องใส่เครื่องมือบังคับฟันต่อไปอีกระยะเวลาหนึ่ง เพื่อบังคับฟันไว้ในตำแหน่งที่ต้องการ โดยรอให้อวัยวะที่รองรับฟัน คือ กระดูก เหงือก และกล้ามเนื้อปรับตัวเข้ากับตำแหน่งใหม่ของฟัน เพื่อช่วยป้องกันการคืนกลับตำแหน่งเดิมของฟัน การจัดฟันจึงใช้เวลานาน โดยเฉลี่ยประมาณ 1-3 ปี จึงแล้วเสร็จ การจัดฟันให้ได้ผลดีนั้น ความร่วมมือของคนไข้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก
การจัดฟัน จำเป็นต้องถอนฟันหรือไม่ การจัดฟันไม่จำเป็นต้องถอนฟันทุกกรณีเสมอไป ขึ้นกับปัญหาการสบฟันว่า มีฟันซ้อนเก หรือฟันยื่น มากน้อยเพียงใด มีเนื้อที่ในขากรรไกรเพียงพอสำหรับการจัดเรียงฟันให้เป็นระเบียบ ได้หรือไม่ หากมีฟันซ้อนเกมากหรือ ฟันยื่นมาก ประกอบกับขากรรไกรมีเนื้อที่ไม่พอก็ต้องถอนฟันออก ซึ่งโดยทั่วไปจะพิจารณาถอนฟันกรามน้อยซี่ที่หนึ่งด้านละ 1 ซี่ เนื่องจากเป็นฟันที่อยู่กึ่งกลางความโค้งของขากรรไกร ซึ่งจะอยู่ไม่ไกลจากการซ้อนเกของฟันด้านหน้า และฟันด้านหลัง ทำให้สามารถเคลื่อนฟันเข้ามาปิดช่องว่างได้ดีกว่าการถอนฟันซี่อื่น และฟันกรามน้อยซี่ที่สองก็สามารถทำหน้าที่แทนฟันกรามน้อยซี่ที่หนึ่งได้
ผู้ที่กำลังใส่เครื่องมือจัดฟัน ต้องเพิ่มการดูแลความสะอาดของฟันมากยิ่งขึ้น เพราะส่วนของเครื่องมือ หรือลวดจะเป็นที่กักเก็บของเศษอาหาร ทำให้เกิดโรคฟันผุได้ง่าย หากใส่เครื่องมือจัดฟันชนิดถอดได้ ควรถอดเครื่องมือทั้งชิ้นออกมาแปรงให้สะอาดทุกครั้งหลังการรับประทานอาหาร พร้อมทั้งแปรงฟันด้วย ในกรณีที่ใช้เครื่องมือติดแน่นก็ควรแปรงฟันหลังการรับประทานอาหารทุกครั้งเช่นกัน ซึ่งอาจจะเลือกใช้แปรงสีฟันชนิดพิเศษที่ออกแบบให้มีร่องอยู่กึ่งกลางตามความยาวของหัวแปรง ช่วยให้แปรงฟันคล่อมเครื่องมือจัดฟันที่ติดอยู่ได้สะดวกยิ่งขึ้น ในขณะอาบน้ำ อาจใช้น้ำฝักบัวช่วยพ่นน้ำใส่บริเวณที่จัดฟัน เพื่อช่วยชะล้างในขณะอาบน้ำร่วมด้วยก็ยิ่งดี การใส่เครื่องมือจัดฟันส่วนใหญ่จะใช้เวลานาน จึงต้องดูแลความสะอาดช่องปากอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันผุ
จัดฟันแบบถอดได้ (Removable Appliances)
แบ่งเป็น 2 ชนิดหลัก ดังนี้
1. Functional Appliances สำหรับคนไข้ที่ยังเจริญเติบโตแต่โครงสร้างขากรรไกรบนและล่างไม่สัมพันธ์กัน ออกแบบเพื่อกระตุ้นหรือยับยั้งการเจริญของกระดูกขากรรไกรในกรณีที่เจริญผิดปกติ
2. Removable Plates สำหรับคนไข้เด็ก หรือผู้ใหญ่ที่มีความผิดปกติไม่มากนัก เพราะมีข้อจำกัดในการเคลื่อนฟันบางอย่างเช่น การหมุนฟันหรือเคลื่อนฟันเป็นระยะทางไกลๆ
จัดฟันแบบติดแน่น (Fixed Appliances)
แบบมาตรฐานที่ควบคุมการเคลื่อนที่ของฟันทุกทิศทางเป็นอย่างดี
แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้
1. Metal Brackets เครื่องมือที่ใช้ติดบนผิวฟันเป็น Stainless Steel มองเห็นได้ชัดเจนใช้คู่กับยางสี (O-ring) เป็นที่นิยมในวัยรุ่น มีการเปลี่ยนยางทุก 4-6 อาทิตย์
2. Clear Brackets เครื่องมือที่ใช้ติดบนผิวฟันเป็นวัสดุใส (Ceramic Brackets) หรือสีเหมือนฟัน (Plastic Brackets) สวยงามมากกว่าแบบโลหะ เป็นที่ชื่อชอบของผู้ใหญ่หรือผู้ที่ต้องติดต่อกับคนจำนวนมาก
3. Self ligating Brackets เครื่องมือที่ใช้ติดบนผิวฟันที่มีทั้งแบบที่เป็น Stainless steel และ Plastics Brackets แต่สามารถล็อคลวด (ไม่ต้องใช้ยาง) จึงสามารถนัดหมอทุก 2-3 เดือน เหมาะกับคนไข้ที่ไม่สามารถจัดฟันอย่างต่อเนื่องทุกเดือน
จัดฟันแบบด้านใน (Lingual Orthodontics)
สำหรับคนไข้ที่เน้นความสวยงามเพราะติดเครื่องมือด้านในฟันจึงมองไม่เห็น แต่ดูแลยากเนื่องจากทำความสะอาดได้ยากกว่าปกติ
จัดฟันแบบใส (Clear Aligners)
เป็นเครื่องมือแบบถอดสำหรับตนที่เน้นความสวยงาม และไม่ต้องการมีเครื่องมือติดแน่น เพราะเป็น Plastic มีการปรับฟันไว้ล่วงหน้า เพื่อบังคับฟันให้เคลื่อนไปในทิศทางที่ต้องการ ต้องมาเปลี่ยนเครื่องมือทุก 2-4 อาทิตย์
Retainers (เครื่องมือคงสภาพฟันแบบถอดได้)
แบบลวด นิยมในวัยรุ่นที่ชอบสีสัน มีโลหะอยู่ด้านนอก เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ของฟันมาทางด้านหน้า ด้านในมีพลาสติกใสเลือกสีต่างๆได้
แบบใส สำหรับผู้ที่ชอบความเป็นธรรมชาติแนบไปกับผิวฟันไม่มีโลหะและพลาสติกในส่วนของเพดานปากให้เกะกะ สามารถปรับฟันบางตำแหน่งได้อีกเล็กน้อย |